สมุทรสงคราม หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และแม่กลอง...แม่น้ำสามชื่อ

1. 

ไปเที่ยวกันไหมคะ ถ้าสนใจก็โดดขึ้นรถตู้มาเลย

วันนี้จะพาไปเที่ยวสมุทรสงคราม

ไปไหว้หลวงพ่อวัดบ้านแหลม และไปดูแม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำสามชื่อ

เคยไปที่วัดนี้มาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นไปกับที่บ้านมีคนขับรถให้นั่ง

คราวนี้ไปเองคนเดียว อิอิ อยากลองว่าถ้าไปคนเดียวมันจะเป็นไง

การไปเที่ยวคนเดียวเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องรอใครคว้ากระเป๋า ร่ม ไอแพดคู่ใจ ใส่รองเท้าสบายๆ

แล้วก็ออกจากบ้านไปโลด เราไปขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯค่ะ

รถจอดใต้ทางด่วน ฝั่งที่จะไปสะพานควาย 

ค่ารถ70 บาท จ่ายค่ารถเสร็จ คนขายส่งตั๋วให้ ปากบอกเราตาก็จ้องอยู่ที่หน้าจอมือถือ

อีกมือก็จิ้มหน้าจอไปเรื่อยๆ เล่นเกมส์อยู่ค่ะ. เออนะ นี่เวลาทำงานเฟ้ยเล่นอะไรกันนักหนา 

เค้าบอกเราว่า รถจอดที่เสา(ต่อม่อ) ต้นที่2 ซ้ายมือ รถเบอร์6

ป้าก็เดินนับต้นเสาไปดิ ทำไมมันไม่เจอล่ะ เสาร์ต้นที่2 มันวินรถไปเมืองทอง!!!!

เออ ชั้นจะไปแม่กลองนิ ไม่ได้ไปดูเทนนิสที่เมืองทอง

เราเดินกลับมาอีกรอบนึงเพื่อจะนับต้นเสา !!!!!

ปรากฏว่าเจอคนขับรถเดินมาตามหาพอดีว่าคนที่ถือตั๋วเบอร์12ไปหลงอยู่ไหน รถจะออกแล้ว

เราดูแล้วดูอีกก็แน่ใจว่ารถจอดอยู่ที่เสาต้นแรก ไม่ใช่ต้นที่สองนะ

แต่ช่างแม่งเหอะ จะไปเที่ยวแล้ว อย่ารมณ์เสียเลยนะ

รถวิ่งขึ้นทางด่วนที่อนุสาวรีย์ไปเร็วมาก แค่ชั่วโมงนึงเราก็เข้าเขตสมุทรสงครามแล้ว

มองเห็นนาเกลือริมถนนเต็มไปหมด. เดี๋ยวนี้แม้แต่นาเกลือก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้นะ

ททท. ใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้วิถีชุมชนค่ะ  วันเสาร์อาทิตย์จะมีคนไปเที่ยว

แวะถ่ายรูป อัพเฟซบุ๊ค. แล้วก็ซื้อ เกลือกลับบ้าน. กันเยอะพอสมควร

แช๊ะ ช๊อป ชิม แชร์ค่ะ สโลแกนททท. ว่าไว้แบบนั้น

ผลพลอยได้อีกอย่างของชาวบ้านแถวนี้ เปิดร้านขายอาหารข้างทางค่ะ

คิดอยู่นะว่า วันหลังจะให้น้องชายขับรถให้พาหลาน(ก็ลูกสาวมันนั่นแหละ) มาเที่ยวแบบนี้บ้าง

รถตู้ที่นั่งมาพาเรามาส่งที่หน้าวัด เราถามคนขับว่า ขากลับขึ้นรถที่ไหน รถหมดกี่โมง

เขาชี้ให้เราดูวินรถตู้ขากลับที่อยู่ไม่ไกลจากหน้าวัด บอกเราว่าวันธรรมดา รถเที่ยวสุดท้าย1ทุ่ม

ถ้าวันหยุดก็สองทุ่ม คนขับรถอัธยาศัยดีมาก เทียบกับคนขับรถตู้ที่เคยเจอมา

ที่น่าแปลกสำหรับเราคือ เราได้ยินเขาพูดโทรศัพท์ก่อนรถจะเข้าเมืองคงคุยกับนายท่า

สำเนียงตอนนั้นติดเหน่อๆแบบคนท้องถิ่น แต่พูดกับเราด้วยสำเนียงกรุงเทพฯชัดเจน

อิอิ สงสัยจังว่าคนท้องถิ่นเขาจะคิดบ้างไหมนะ........ คนกรุงงเทพฯพูดเหน่อจังเลย

อ่ะเวิ่นเว้อมากไปล่ะ เข้าวัดกันดีกว่า

ที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อวัดบ้านแหลมคือวิหารค่ะ อยู่ริมถนนเลยฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถกว้างมาก

ถ้าเป็นวันหยุดจะมีรถสารพัดชนิดแน่นมากมาย

รูปข้างบนเป็นรูปที่ถ่ายหน้าวิหาร ทางวัดจัดให้จุดธูปจุดเทียนบูชาตรงนี้ห้ามจุดในวิหาร 

เราจุดธูปอธิษฐานขอให้เราได้ project ที่รออยู่ซะทีเหอะ อิอิ

นี่คือจุดหมายหลักของทัวร์วันนี้เลยนะนั่น เวลาต้องแข่งกะนเยอะๆ เนื้องานพอกันเครือข่ายปึ้กพอกันนี่

ไม่มีอะไรดีไปกว่าพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ สำหรับสังคมอุปถัมภ์แบบ้านเรานี่ บางทีก็ต้องเชื่อว่า

......เหนือฟ้ายังมีฟ้า.........

เอ้าเข้าไปในวิหารกันเถอะ

หลวงพ่อวัดบ้านแหลมเป็นพระพุทธรูปยืนปางพระอุ้มบาตร 

เป็นพระพุทธรูปประจำวันของคนที่เกิดวันพุธตอนกลางวัน

ประวัติของท่านหาอ่านได้ตามเว็บต่างๆนะคะรับรองว่าเหมือนกันทุกเว็บล่ะ 

เหมือนทุกตัวอักษรด้วยตามแบบฉบับเว็บไทย ผู้ชำนาญการ cop & paster

ที่เพิ่มมาตอนนี้คือองค์เทพค่ะ!!!!!!

องค์เทพในวัดไทย ถึงจะอยู่นอกวิหารก็เถอะนะ

องค์นี้มีป้ายติดไว้ว่า เทพกระซิบ

ผู้ใดอยากได้พรทันใจให้กระซิบบอกท่านได้เลย ความเชื่อนี้เราเห็นที่นี่เป็นแห่งแรก

ส่วนใหญ่จะเห็นแต่วัดที่มีพระพิคเณศก็จะมีรูปปั้นหนูตัวใหญ่ให้กระซิบขอพรได้

หนูซึ่งเป็นพาหนะของพระพิคเณศก็จะไปขอพรจากท่านให้อีกต่อนึง

นอกจากนี้ยังมีเทพฮินดูด้วยเน้อแต่ตั้งอยู่นอกวิหารมีทั้งพระพิคเณศพระศิวะ พระแม่กาลี

และอีกหลายๆองค์เทพที่คนไทยนิยมกราบไหว้บูชา

เราถ่ายรูปมาเฉพาะพระศิวมหาเทพ เทพฮินดูองค์สำคัญที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักท่านในนามพระอิศวร

ในวิหารเย็นสบายมากค่ะ เหมือนวัดทั่วๆไปที่ไหนโบสถ์วิหารจะเย็นสบายมาก

ไม่ว่าอากาศภายนอกจะร้อนแค่ไหนก็ตามทีทุกครั้งที่คุณเข้าไปด้านในคุณจะรู้สึกถึงความเย็นนี้ได้เสมอ

แต่ต้องเป็นวัดธรรมดาที่ผู้คนไม่พลุกพล่านนะบรรยากาศจะเหมาะมากกับการนั่งสมาธิสวดมนต์ไหว้พระ